หลักการใช้ if ในภาษาอังกฤษ

By | August 28, 2014

วันนี้เราจะมาเรียนรู้ถึงประโยคที่ใช้คำว่า “if” ในภาษาอังกฤษ ว่ามีหลักการใช้อย่างไรที่ถูกต้อง ซึ่งการใช้ “if” จะใช้สำหรับสนทนา บอกกล่าวว่า ถ้าหากมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น อะไรจะเกิดตามมา

if (ถ้า)ใช้ในประโยคเงื่อนไข (condition) หรือที่เรียกว่าประโยคเหตุ ประโยคผล (Clause) ดังนี้

1. ใช้ if ในประโยคเงื่อนไขกับเงื่อนไขที่เป็นไปได้ โดยใช้วางไว้ต้นประโยคหรือท้ายประโยคก็ได้ (ท้ายประโยคหลัก)

If + clause, + clause
clause + if + clause

If you eat too much, you get fat.
ถ้าคุณทานมากเกินประมาณ คุณอ้วนแน่

You get fat if you eat too much.
คุณอ้วนแน่ถ้าคุณทานมากเกินประมาณ

2. ใช้ if ในประโยคเงื่อนไข กับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตและ แม้จะพูดถึงเหตุการณ์ที่เป็นอนาคตก็ตาม ก็ให้ใช้ present simple tense (ในประโยค if clause) แทน future tense เช่น

If nuclear  weapons are employed in a world war, the world will be destroyed.
ถ้าอาวุธปรมาณู ถูกนำมาใช้ในสงครามโลก โลกจะถูกทำลาย

The world will be destroyed if nuclear weapons are employed in a world war.
โลกจะถูกทำลาย ถ้าอาวุธปรมาณูถูกนำมาใช้ในสงครามโลก

if we are not back by midnight, we will miss the chance.
ถ้าพวกเราไม่กลับมาในเวลาเที่ยงคืนพวกเราจะพลาดโอกาสแน่

We will miss the chance if we are not back by midnight.
พวกเราจะพลาดโอกาสถ้ากลับมาไม่ทันเที่ยงคืน

If I have enough time tomorrow, I’ll come and see you.
ถ้าพรุ่งนี้ผมมีเวลา ผมจะมาพบคุณ

I will come and see you if I have time tomorrow.
ผมจะมาพบคุณถ้าผมมีเวลาพรุ่งนี้

3. ใช้ if ในประโยคเงื่อนไขกับเหตุการณ์ที่ไม่เป็นจริงหรือกับเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ในขณะที่พูดอยู่นั้นหรือในอนาคตก็ตามในเงื่อนไขนี้ให้ใช้ past tense ในประโยค if clause

If + past tense, + เงื่อนไขมี would
เงื่อนไขมี would + if + past tense

If she came, I would tell you.
ถ้าหล่อนมา ผมจะบอกคุณ

I would tell you if she came.
ผมจะบอกคุณถ้าหล่อนมา

If we came here, he would punish us.
ถ้าพวกเรามาที่นี่เขาจะลงโทษพวกเรา

He would punish us if we came here.
เขาจะลงโทษพวกเราถ้าพวกเรามาที่นี่

If I were rich, I would go to London.
ถ้าผมรวยผมจะไปกรุงลอนดอน

I would go to London if I were rich.  
ผมจะไปกรุงลอนดอน ถ้าผมรวย

หมายเหตุ : ในรูปแบบที่เป็นทางการตามเงื่อนไขนี้จะใช้ were หลัง if กับประธานทุกตัว

4. ใช้ if ในประโยคเงื่อนไข กับเหตุการณ์ในอดีตที่ไม่ได้เกิดขึ้น โดยใช้ past perfect tense ในประโยค if clause และใช้ would have (ประโยคเงื่อนไขที่สมบูรณ์) ในประโยคหลัก (main clause)

If + past perfect, + ประโยคมี would have
ประโยคมี would have + if + past perfect

If he had realized that, he would have run away.
ถ้าเขารู้สิ่งนั้นเขาคงวิ่งหนีไปแล้ว

He would have run away if he had realized that.
เขาคงวิ่งหนีแล้วถ้ารู้สิ่งนั้น

If she had invited me, I would have come.
ถ้าหล่อนได้เชิญผม ผมคงมาร่วมงานแล้ว

I would have come if she had invited me.

ผมคงมาร่วมงานแล้วถ้าหล่อนได้เชิญผม

If you had worked harder, you would have passed your exam.
ถ้าคุณขยันกว่านี้ คุณคงสอบผ่านแล้ว

You would have passed your exam if you had worked harder.
คุณคงสอบผ่านแล้ว ถ้าคุณขยันกว่านี้

5. ใช้ if + were แทน if + was โดยใช้ได้กับประธานทุกตัวทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ โดยเฉพาะใช้ were กับการสมมุติที่ตรงข้ามกับความเป็นจริง โดยเฉพาะปัจจุบันนี้จะใช้ were แทน was เสมอ

If + were / was

If I was / were offered a job, I would take it.
ถ้าผมถูกเสนองานให้ ผมจะรับทันทีเลย
(จริงๆ แล้วเป็นการสมุมติเพราะไม่มีใครเสนองานให้เลย)

If Mr. Dale was / were to apply for the post he’d probably get it.
ถ้าคุณเดลสมัครในตำแหน่งนี้ เขาคงได้แน่เลย
(ความจริงคุณเดลไม่สมัครในตำแหน่งนี้เลยแต่พูดเพราะเขาน่าจะได้ถ้าสมัครในตำแหน่งนี้)

If I were you I would marry her.
ถ้าผมเป็นคุณผมจะแต่งงานกับหล่อน
(ผมเป็นคุณไม่ได้เพราะคนละคนกัน)

If I were in his circumstances, I would do the same thing
ถ้าผมอยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกับเขาผมจะทำอย่างเดียวกับที่เขาทำ
(ผมอยู่ในสถานการณ์ของเขาไม่ได้เพราะคนละคนกัน)

หมายเหตุ : ปัจจุบันภาษาพูดมักใช้ was เพราะง่าย ยกเว้นแต่
‘If I were you’ ส่วนในภาษาเขียนใช้ were แทน was

6. ใช้ประโยค (tense) ที่สัมพันธ์กับประโยคของ if ก็ได้โดยทำหน้าที่เหมือนคำสันธานอื่นๆ เช่น

If you want to know English, you have to learn.
ถ้าคุณอยากรู้อังกฤษคุณต้องเรียน

If that was Boonmee, why didn’t he stop and talk to me
ถ้านั่นคือบุญมีทำไมเขาไม่หยุดคุยกับผม

7. ใช้ if only เพื่อแสดงถึงความหวัง (hope), ความปรารถนา (wish) หรือแม้แต่แสดงความเสียใจ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับประโยคที่ตามหลังมา โดยใช้ประโยค (tense) เดียวกัน วางไว้หลัง if only เหมือนกันกับ tense ที่วางอยู่หลัง I wish แต่ if only จะให้ความรู้สึกเน้นมากกว่า I wish

If only + present tense / will ที่แสดงความหวัง

If only he comes in time.
=We hope he will come in time.
พวกเราหวังว่าเขาจะมาทันเวลา

If only he will talk to her.
=We hope he will be willing to talk to her.
พวกเราหวังว่าเขาอยากจะคุยกับหล่อน

If only + past / past perfect tenses อธิบายความเสียใจ

โดยโครงสร้างนี้จะให้ความหมายเหมือน

Wish + past / past perfect tenses

If only he didn’t drive so fast.
= We wish he didn’t drive so fast.
หรือ
We are sorry he drives so fast.
พวกเราต่างเสียใจที่เขาขับรถเร็วมาก

If only + subject + would
โครงสร้างนี้จะกล่าวถึงอนาคต

If only it would stop raining !
ผมหวังว่าฝนจะหยุดตก

If only somebody would smile !
หวังว่าจะมีคนยิ้มบ้าง

ที่มา:นเรศ  สุรสิทธิ์
B.A.(English), M.A.(English)