have to และ must มีหลักการใช้อย่างไรและต่างกันหรือไม่

By | August 12, 2013

ในการบอกผู้ที่เรากำลังสนทนาด้วยให้ทราบว่า จำเป็นต้องทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีวิธีในการบอกที่ใช้กันโดยทั่วไป 2 รูปแบบ คือ ใช้คำว่า have to หรือ must ซึ่งทั้งสองคำนี้ต่างก็มีความหมายแปลว่า “ต้อง” (ทำบางสิ่ง) ด้วยกันทั้งคู่

have to และ must

ตัวอย่างประโยค have to และ must

I have to wear glasses for reading. แปลว่า ฉันต้องสวมแว่นเพื่ออ่านหนังสือ

I must wear glasses for reading. แปลว่า ฉันต้องสวมแว่นเพื่ออ่านหนังสือ

I have to sleep at 21.00 . แปลว่า ฉันต้องเข้านอนเวลา 21.00

I must sleep at 21.00 . แปลว่า ฉันต้องเข้านอนเวลา 21.00

จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นได้ว่าทั้ง have to และ must ต่างก็มีความหมายเหมือนกัน แต่ความจริงแล้วทั้งสองคำมีวิธีการใช้แตกต่างกันเล็กน้อยดังนี้

have to และ must ใช้ต่างกันอย่างไร

must จะใช้สำหรับสิ่งที่เป็นความรู้สึกนึกคิดของผู้พูดเอง เป็นความเชื่อ

have to จะใช้สำหรับสิ่งที่เป็นความจริง

ยกตัวอย่างเช่น

I must go on a diet, because I feel that I should. แปลว่า ฉันต้องอดอาหารต่อไป เพราะฉันรู้สึกว่าฉันควรทำ
I have to go on a diet, because the doctor said so. แปลว่า ฉันต้องอดอาหารต่อไป เพราะหมอบอกอย่างนั้น

จะเห็นได้ชัดว่า แม้ทั้งสองประโยคจะกล่าวถึงความจำเป็นต้องอดอาหารต่อไป แต่กรณีแรกเป็นความรู้สึก ความเชื่อ จากภายในใจ ของผู้พูดจึงใช้ must แต่กรณีที่สองเป็นความจริงที่หมอสั่งให้ทำ เป็นปัจจัยที่ไม่ได้มาจากความรู้สึกของผู้พูด จึงใช้ have to

มาดูตัวอย่างเพิ่มเติม

I must stop smoking. (I want to.)

I have to stop smoking. (Doctor’s orders.)

ทั้งสองประโยคมีความหมายเช่นเดียวกัน คือ ฉันต้องเลิกสูบบุหรี่ แต่กรณีที่ต้องการเลิกเองจะใช้ must , ส่วนกรณีที่หมอสั่งใช้ have to

It must be nice to live in Bangkok . มันต้องดีแน่ที่จะอยู่ในกรุงเทพ ฯ (เป็นความรู้สึก)

I have to work from 8.30 to 17.30 every day. ฉันต้องทำงาน 8.30 ถึง 17.30 ทุกวัน (เป็นข้อเท็จจริง)

 

ประโยคปฏิเสธ have to และ must

– have to เมื่ออยู่ในรูปประโยคปฏิเสธ จะใช้คำว่า don’t have to

– must เมื่ออยู่ในรูปประโยคปฏิเสธ จะใช้คำว่า mustn’t

ซึ่งก็มีความแตกต่างในการใช้งาน คือ

mustn’t จะใช้บอกว่าต้องไม่ทำสิ่งใด ซึ่งถือเป็นเรื่องจำเป็นมากที่จะไม่ทำ เช่น

You must keep this a secret. You mustn’t tell anyone. แปลว่า คุณต้องเก็บความลับไว้ คุณต้องไม่บอกใคร (สำคัญมาก ห้ามบอกเด็ดขาด)

 

don’t have to จะใช้บอกว่าต้องไม่ทำสิ่งใด แต่ถ้าจะทำก็ได้ เช่น

You don’t have to tell Tom what happened.  I can tell him myself. แปลว่า คุณต้องไม่บอกทอมว่าเกิดอะไรขึ้น. ฉันสามารถบอกเขาได้เอง

 

ทั้งหมดนี้ก็คือตัวอย่างของการใช้คำว่า have to และ must แล้วพบกันใหม่ในเคล็ดลับภาษาอังกฤษดี ๆ ตอนต่อไป