Common Nouns แบ่งได้เป็น Countable Nouns และ Uncountable Nouns

By | February 15, 2013

ในบทที่ผ่านมา เราทราบกันแล้วว่า Nouns แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ Common Nouns และ Proper nouns ในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Common Nouns (นามทั่วไป) กันให้เข้าใจมากขึ้น

Common Nouns คือ คำนามสำหรับใช้เรียกคน สัตว์ สิ่งของ ความคิด โดยที่คำนามในประเภทนี้ จะไม่ระบุเฉพาะเจาะจงเหมือนกับ Proper nouns

ยกตัวอย่าง เช่น คำว่า man ที่แปลว่าผู้ชาย เป็นคำเรียกรวม ๆ ที่ไม่เจาะจงชัดเจน คำนี้จึงเป็น Common Nouns แต่ถ้ามีการระบุชื่อว่า Jim ที่เป็นชื่อเฉพาะก็จะกลายเป็น Proper nouns

คำว่า month ที่แปลว่าเดือน ไม่ได้ระบุชัดเจนจึงจัดเป็น Common Nouns แต่ถ้าบอกว่า May (เดือนพฤษภาคม) ก็จะอยู่ในประเภท Proper nouns

ประเภทของ Common Nouns

แบ่งได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่

  • นามนับได้  ( countable nouns, count nouns )
  • นามนับไม่ได้ ( uncountable nouns )

 

countable nouns หรือ count nouns

คือ คำนามนับได้ คำว่านับได้ในที่นี้หมายถึงการนับจำนวนของคำนามแต่ละคำ อะไรก็แล้วแต่ที่นับได้จะจัดอยู่ในกลุ่มคำนามทั่วไปประเภทนี้ โดยที่ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีรูปร่างก็ได้

ตัวอย่างคำนามนับได้ที่มีรูปร่าง เช่น dog , boy , table เป็นต้น

ตัวอย่างคำนามนับได้ที่ไม่มีรูปร่าง เช่น day , month , year , trip

 

countable nouns สามารถอยู่ได้ทั้งในรูปเอกพจน์ ( Singular ) หรือ พหูพจน์ ( Plural ) ซึ่งทั้ง 2 มีรายละเอียดดังนี้

1. Singular count nouns (นามนับได้เอกพจน์) คือ นามนับได้ที่มีจำนวนเพียงแค่ 1 เดียว เช่น a book , a woman , a wish , an idea

นามนับได้เอกพจน์ มีข้อกำหนดในการใช้อยู่ว่าไม่สามารถนำไปใช้โดดเดี่ยวได้ จะต้องมี determiner นำหน้าเสมอ เช่น

the table  , that English teacher  , a bird  , my latest idea

นำหน้าด้วย quantifier

some new books , a few teachers , lots of good ideas

 

Singular count nouns

 

2. Plural count nouns (นามนับได้พหูพจน์) คือ คำนามนับได้ที่มีจำนวนมากกว่า 1 ขึ้นไป ในภาษาอังกฤษจะมีวิธีระบุให้ทราบว่าคำนามเหล่านี้มีจำนวนมากกว่า 1 ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

– โดยทั่วไปจะให้วิธี เติม S ข้างหลังคำ

book เป็น books  , dog เป็น  dogs ,  friend เป็น friends

 

– คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย s , sh, ss ,ch , x , z จะใช้วิธีเติม -es ข้างหลังคำ

class เป็น classes  , watch เป็น  watches , gas เป็น gases , wish เป็น wishes , box เป็น boxes

 

-คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน  y เป็น i แล้วเติม es เช่น

lady เป็น  ladies  , country เป็น  countries , party เป็น  parties

แต่ถ้าหน้า y เป็นสระ ให้เติมเพียง s เช่น

boy เป็น  boys  , day เป็น days  , play เป็น plays

 

– คำนามที่ลงท้ายด้วย o  และหน้า o เป็นพยัญชนะ เติม es เช่น

tomato เป็น  tomatoes , hero เป็น   heroes

คำนามที่ลงท้ายด้วย o บางคำ ก็เติมแค่ s เพียงอย่างเดียว เช่น

auto เป็น  autos , piano เป็น pianos , bamboo เป็น bamboos

 

–  คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe เปลี่ยนให้เป็น v แล้วเติม es เช่น

thief ( ขโมย )     thieves
life ( ชีวิต )     lives
knife ( มีด )     knives
wife ( ภรรยา )     wives

แต่ก็มีคำยกเว้นต่อไปนี้ที่เติมแค่ s

belief ( ความเชื่อถือ)     beliefs
dwarf ( คนแคระ )     dwarfs
brief ( สำนวนคดีความ )     briefs
grief  ( ความเศร้าโศก )     griefs
chef ( หัวหน้าพ่อครัว )     chefs
gulf ( อ่าว )     gulfs
chief ( หัวหน้า)     chiefs
reef (หินโสโครก )     reefs

cliff ( หน้าผา )     cliffs
safe ( ตุ้นิรภัย)     safes

 

– คำที่ทำให้เป็นนามพหุพจน์โดยเปลี่ยนภายในคำ

man ( ผู้ชาย )     men
woman (ผู้หญิง )     women
louse  ( เหา,หมัด )     lice
mouse ( หนู )     mice
ox ( วัว )     oxen
foot ( เท้า )     feet
child ( เด็ก )     children
tooth ( ฟัน )     teeth

– คำต่อไปนี้เหมือนกันทั้งรูปพหูพจน์ และ เอกพจน์

aircraft ( เครื่องบิน )
herring ( ปลาเฮอริง )
deer ( กวาง )
species ( ชนิด )
carp ( ปลาคาร์พ )
salmon ( ปลาซาลมอน )
bison ( วัวกระทิง )
corps ( กองร้อย )
fish ( ปลา )
mackerel ( ปลาแมคเคอเรล )
shellfish( สัตว์น้ำที่มีเปลือก )
series ( ชุด )
sheep ( แกะ )
trout ( ปลาเทร้า )
barracks ( โรงเรือนทหาร )

** จะเห็นได้ว่าการแปลงคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์มีมากมายหลายแบบ ซึ่งการจะรู้ให้ได้ทั้งหมดนั้น ส่วนหนึ่งต้องมาจากการหมั่นสังเกต **

uncountable nouns

คือ นามที่ไม่สามารถนับจำนวนได้ การทำความเข้าใจในส่วนนี้จะต้องทราบก่อนว่า ภาษาอังกฤษใช้วิธีมองสิ่งต่าง ๆ ในภาพรวม จึงมีคำบางประเภทที่ไม่สามารถจะนับได้ เช่น น้ำตาล ,น้ำ เป็นต้น การกระทำต่างๆที่เป็นรูปธรรม( abstract nouns )

ตัวอย่าง uncountable nouns

Concrete : เช่น  water, milk, butter, furniture, luggage, iron,equipment,clothing,garbage, junk
Abstract  : เช่น anger, courage, satisfaction,happiness,knowledge
ชื่อภาษา:  เช่น English,German,Spain
กีฬาต่างๆ : เช่น hockey, football, tennis
ชื่อวิชาต่างๆ : เช่น  sociology, medicine, anthropology
กิจกรรมต่างๆ : swimming, eating
อื่นๆ : news, money,mail ,work,homework,gossip, education, weather, difficulty, information,feminism, optimism,machinery,information, research,traffic,scenery,breakfast, accomodation, advice, permission

หลักการใช้ uncountable nouns

– มีรูปเป็นเอกพจน์ ซึ่งถ้าเป็นการกล่าวถึงโดยทั่วไป และไม่เคยกล่าวมาก่อน ไม่ต้องมีคำ articles (a ,an , the) ใด ๆ นำหน้าทั้งสิ้น

We ate a lot of foods > We ate a lot of food
We bought some new furnitures > We bought some new furniture
That’s a useful information > That’s useful information

– ทำให้เป็นพหูพจน์ได้โดยบอกจำนวนตามภาชนะที่บรรจุ กลุ่ม น้ำหนัก และลักษณะนาม เช่น

two cups of water, three pieces of information, five patches of sunlight
three games of hockey, two lumps of sugar
I need two lumps of sugar for my coffee.  ฉันกินกาแฟต้องใส่น้ำตาล  2  ก้อน

 

นอกจากนี้ยังมีคำ nouns ที่เป็นได้ทั้ง Countable และ Uncountableคำนามบางคำสามารถเป็นได้ทั้งนามนับได้และนามนับไม่ได้ แล้วแต่การใช้ เช่น

abuse ( ใช้ในทางที่ผิด ) faith ( ความเชื่อ ) nature  ( ธรรมชาติ )
adulthood ( ความเป็นผู้ใหญ่) fear ( ความกลัว ) paper ( กระดาษ )
afternoon ( ตอนบ่าย ) fiction ( เรื่องอ่านเล่น ) passion ( หลงไหล )
age ( อายุ ) film ( ภาพยนต์ ) people ( ประชาชน )
anger ( ความโกรธ ) fish ( ปลา ) personality  ( บุคลิกภาพ )
appearance ( สิ่งที่ปรากฏแก่ตา ) flavor ( กลิ่น ) philosophy  ( ปรัชญา )
art ( ศิลปะ ) food ( อาหาร ) power ( พลัง )
beauty ( ความสวย ) friendship ( ความเป็นเพื่อน ) reading ( การอ่าน )
beer ( เบียร์ ) fruit ( ผลไม้ ) religion ( ศาสนา )
belief  ( ความเชื่อ ) glass ( แก้ว ) revision ( การทบทวน )
breakfast ( อาหารเช้า ) government ( รัฐบาล ) rock ( หิน )
cheese ( เนยแข็ง) hair ( ผม ) science ( ศาสตร์,วิทยาศาสตร์ )
chicken ( ไก่ ) history ( ประวัติศาสตร์ ) school ( โรงเรียน )
childhood ( ความเป็นเด็ก ) innocence ( ความไร้เดียงสา ) shock ( ตกใจ งงงวย )
college ( วิทยาลัย ) jail ( คุก ) society ( สังคม )
competition ( การแข่งขัน ) jealousy ( ความอิจฉา) sorrow ( ความเศร้าโศก)
crime ( อาชญากรรม ) language ( ภาษา) space ( ที่ว่าง )
culture ( วัฒนธรรม ) law  ( กฏหมาย ) speech ( สุนทรพจน์ )
death ( ความตาย ) liberty  ( เสรีภาพ) spirit ( วิญญาณ, จิตใจ )
divorce ( การหย่าร้าง ) life ( ชีวิต) stone ( หินมีค่า )
disease ( โรค) love ( ความรัก ) strength ( ความเข้มแข็ง )
drama ( บทละคร ) lunch  ( อาหารกลางวัน ) teaching ( การสอน )
duck ( เป็ด ) man  ( คน ) temptation ( สิ่งล่อ ยั่วยวนใจ)
education ( การศึกษา) marriage ( การแต่งงาน ) theater ( โรงละคร)
environment ( สิ่งแวดล้อม ) meat ( เนื้อสัตว์) theory ( ทฤษฎี )
evening ( ตอนเย็น) metal ( โลหะ ) time ( เวลา)
exercise ( แบบฝึกหัด ออกกำลัง) milk ( นม ) trouble ( ปัญหา )
fact ( ความจริง) morning  ( ตอนเช้า ) wine ( เหล้าองุ่น )