หลักการใช้ Past Simple Tense

By | June 14, 2013

Past Simple คือ ประโยคที่กล่าวถึงเรื่องราวในอดีตที่ได้จบลงไปแล้ว โดยโครงสร้างของTenseนี้ คือ Subject + Verb ช่องที่ 2 (เ็ป็นคำกิริยาที่ส่วนมากจะลงท้ายด้วย -ed นั่นเอง )

ในประโยคบอกเล่าที่เป็น Past Simple Tense คือ ประธาน + กิริยา ช่องที่ 2 โดยในส่วนของกิริยาจะแบ่งได้ดังต่อไปนี้

กิริยาช่อง 2 แบบ Regular Verbs

คือ คำกิริยาที่เปลี่ยนรูปเป็น Past Simple Tense ด้วยการเติม -ed

We played football yesterday แปลว่า พวกเราเล่นฟุตบอลเมื่อวานนี้
I lived in Bangkok when i was young. แปลว่า ฉันอาศัยอยู่ในกรุงเทพเมื่อตอนเป็นเด็ก

 

กิริยาช่อง 2 แบบ Irregular Verbs

คือ คำกิริยาที่เปลี่ยนรูปไม่ต้องเติม -ed ตามหลัง เช่น

Have  =  Had

Go = Went

รวมถึงคำกิริยาที่ไม่เปลี่ยนรูปเลยในทุกช่อง เช่น cut ,hurt ,let ,fit ,cost เป็นต้น

และกิริยาที่เป็น verb “be” ซึ่งได้แก่ was และ were

 

เราสามารถเปลี่ยนประโยคบอกเล่าให้เป็น ประโยคปฏิเสธ (Negative) ได้โดยใช้ did not เข้ามาช่วย และเปลี่ยนคำกิริยากลับมาที่ช่องแรก เช่น

I played เป็น I didn’t play

I went to the cinema last week.  เป็น I didn’t go to the cinema last week.

 

หากเป็นประโยคปฏิเสธในกรณีที่เป็น verb “be” ให้เติม not ที่หลัง was หรือ were เช่น

I was born in Bangkok  เปลี่ยนเป็น I was not born in Bangkok.

 

ตารางแสดงโครงสร้าง  Past Simple Tense ในประโยคบอกเล่า ปฏิเสธ และคำถาม

Past Simple Tense

ในกรณีของประโยคคำถาม ให้นำคำว่า Did มาเติมไว้ที่หน้าประโยค และเปลี่ยนกิริยาเป็นช่องแรก เช่น

They went to London last year. เป็น Did they go to London last year?

 

หากคำกิริยาอยู่ในรูป Verb be ให้นำ was หรือ were มาอยู่ข้างหน้าประโยค เช่น

He was angry with me เป็น Was he angry with me?

 

** ข้อควรจำอีกประการคือ ใน Past Simple นั้น Modal Verb คำว่า must จะเปลี่ยนเป็น had to เช่น

I must call my wife now. หากเป็น Past Simple จะเขียนเป็น I had to call my wife yesterday.