หลักการใช้ Adverbs ภาษาอังกฤษ

By | May 26, 2013

Adverbs หรือ คำวิเศษณ์ คือ คำที่ใช้ในประโยคสำหรับอธิบายความหมายของคำกริยา หรือคำคุณศัพท์(adjectives) รวมถึงคำวิเศษณ์คำอื่นในประโยค ตัวอย่างเช่น

He walked slowly across the crossroad.  เขาเดินข้ามถนนอย่างช้า ๆ

จากประโยคข้างต้น คำว่า slowly ที่แปลว่าช้า ช่วยอธิบายขยายความหมายของคำกริยา walk ที่แปลว่าเดิน

หลักการใช้ adverbs

ประเภทของ Adverbs

1. Adverb of Time  คำวิเศษณ์เกี่ยวกับเวลา

ตัวอย่างเช่น She will visit the hospital tomorrow. เธอจะไปโรงพยาบาลวันพรุ่งนี้

คำว่า visit ที่แปลว่า “ไป” เป็น verb (คำกิริยา) ส่วนคำ adverb ที่มาขยาย คือ คำว่า tomorrow ซึ่งแปลว่าพรุ่งนี้

คิดง่าย ประโยคนี้คือคำตอบซึ่งหากใครมาถามว่า When will she visit the hospital? เธอจะไปโรงพยาบาลเมื่อไร

 

ในส่วนของ คำวิเศษณ์เกี่ยวกับเวลา อาจแบ่งย่อยเป็น 3 อย่างคือ

– adverbs ที่ใช้ตอบว่า when (เมื่อไร) ที่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เช่น

I saw Mary yesterday.
She was born in 1980.
I will see you later.

– adverbs ที่ใช้ตอบว่า how long (นานแค่ไหน) :

We waited all day.
They have lived here since 2004.
We will be on holiday from July 1st until August 3rd.

– adverbs ที่ใช้ตอบว่า how often (บ่อยแค่ไหน)

They usually watched television in the evening.
We sometimes went to work by car.

 

2. Adverb of Place คำวิเศษณ์เกี่ยวกับสถานที่

ตัวอย่างเช่น They will meet you there.  พวกเขาจะพบคุณที่นั่น

คำว่า there ที่แปลว่า ที่นั่น ช่วยเจาะจงรายละเอียดของสถานที่จากคำกิริยาว่า meet (พบ) และเป็นคำตอบของคำถามว่า Where will they meet you?

เราสามารถแบ่งกลุ่มคำวิเศษณ์เกี่ยวกับสถานที่ได้ดังนี้

– ใช้บอกตำแหน่งสถานที่ว่าที่ไหนที่บางคนหรือบางสิ่งอยู่ เช่น

  • He was standing by the table. เขากำลังยืนอยู่ข้างโต๊ะ
  • You’ll find it in the cupboard. คุณจะพบมันในตู้
  • Sign your name here – at the bottom of the page. เซ็นชื่อของคุณที่นี่ – ที่ท้ายหน้ากระดาษ

– ใช้บอกทิศทางที่บางคนหรือบางสิ่งกำลังเคลื่อนที่ เช่น

  • Walk past the bank and keep going to the end of the street. เดินผ่านธนาคารและไปต่อจนสุดถนน
  • The car door is very small so it’s difficult to get into. ประตูรถมีขนาดเล็กมาก ทำให้ยากที่จะเข้าไปข้างใน

– ใช้ในการแสดงระยะทางว่าสิ่งนั้นไกลเท่าไร เช่น

  • Birmingham is 250 kilometres from London. เบอมิงแฮมอยู่ห่าง 250 กิโลเมตรจากลอนดอน
  • We were in London. Birmingham was 250 kilometres away. เราอยู่ในลอนดอน .เบอมิงแฮมอยู่ห่างออกไป250กิโลเมตร

 

3. Adverb of Manner คำวิเศษณ์เกี่ยวกับอิริยาบท

ตัวอย่างเช่น She works fast. เธอทำงานเร็ว

คำว่า works เป็นกิริยา(verb) ส่วนคำว่า fast ที่แปลว่า เร็ว เป็นคำวิเศษณ์ที่มาขยายความหมายของคำว่า ทำงาน

 

คำวิเศษณ์เกี่ยวกับอิริยาบทที่เกิดขึ้นมักจะมาจากคำคุณศัพท์โดยการเพิ่ม –ly:

เช่น

bad เป็น  badly

quiet เป็น quietly

recent เป็น recently

sudden เป็น suddenly

 

แต่บางคำก็มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในการสะกด เช่น

easy เป็น easily

gentle เป็น gently

 

มีคำวิเศษณ์ไม่กี่คำที่มีรูปแบบเดียวกันเป็นคำคุณศัพท์:

เช่น

They all worked hard.
She usually arrives late.
I hate driving fast.

หมายเหตุ hardly and lately มีความหมายหมายต่างออกไป

He could hardly walk หมายถึง มันเป็นการยากสำหรับเขาในการเดิน

I haven’t seen John lately . หมายถึง ฉันไม่ไเห็นจอห์นเมื่อเร็วๆนี้

 

4. Adverbs of Degree คำวิเศษณ์เกี่ยวกับระดับ

She almost finished the work. เธอเกือบเสร็จงาน

คำว่า เสร็จ (finished) เป็นกริยา ส่วนคำว่า เกือบ (almost) เป็นคุณศัพท์ที่มาขยายความ ประโยคนี้เป็นคำตอบของคำถามว่า

How much of the work did she finish? เธอทำงานเสร็จไปแล้วแค่ไหน

คำวิเศษณ์เกี่ยวกับระดับ จะ แสดงให้เห็นขอบเขต การกระทำหรือสิ่งที่จะทำว่ามากน้อยแค่ไหน

ตัวอย่างคำอื่น ๆ เช่น Fully, Partially, Altogether เป็นต้น

 

5. Adverbs of Confirmation and Negation คำวิเศษณ์เกี่ยวกับการยืนยันหรือปฏิเสธ

ตัวอย่างเช่น They will certainly like this vase. พวกเขาจะชอบแจกันใบนี้อย่างแน่นอน

คำวิเศษญ์ certainly ที่แปลว่าอย่างแน่นอน ช่วยตอกย้ำคำกิริยา like ที่แปลว่าชอบ

ประโยคข้างต้นเป็นคำตอบของคำถาม Will they like this vase? พวกเขาจะชอบแจกันใบนี้หรือไม่

 

He never leaves his house.เขาไม่เคยไปจากบ้านของเขา

คำวิเศษญ์  never ที่แปลว่าไม่เคย ทำหน้าที่ปฏิเสธกิริยา leave.

 

ตัวอย่างคำวิเศษญ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการยืนยัน เช่น  Definitely, Absolutely, Surely เป็นต้น

คำวิเศษญ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิเสธ เช่น No, Don’t, Can’t เป็นต้น

 

6. Adverbs of Comment คำวิเศษณ์เกี่ยวกับความคิดเห็น

คำวิเศษณ์เหล่านี้จะใช้เพื่อให้การแสดงความคิดเห็นในประโยค ให้เห็นมุมมองของผู้พูดหรือความเห็นเกี่ยวกับประโยค

ตัวอย่างเช่น Luckily, the dog did not bite the children. โชคดี ที่หมาไม่กัดเด็ก

they would win the world cup, obviously. พวกเขาคงจะชนะฟุตบอลโลก อย่างแน่นอน

 

7. Adverbs of Conjunction  คำวิเศษณ์เกี่ยวกับการเชื่อมประโยค

คำวิเศษณ์เหล่านี้จะใช้ในการเชื่อมต่อความคิดหรือประโยคที่เป็นเหตุเป็นผลเกี่ยวโยงต่อกัน ในการเชื่อมประโยคด้วยคำวิเศษณ์นี้จะต้องใช้อัตภาค (เซมิโคลอน 😉 มาใช้เชื่อมต่อ

ตัวอย่างเช่น

ข้อความที่ 1: He was going for an important interview. เขากำลังไปงานสัมภาษณ์ที่สำคัญ

ข้อความที่ 2: He made sure he reached on time. เขาทำให้แน่ใจได้ว่าจะไปทันเวลา

 

He was going for an important interview; accordingly, he made sure he reached on time.

เขากำลังไปงานสัมภาษณ์ที่สำคัญ เพราะฉะนั้น เขาทำให้แน่ใจได้ว่าจะไปทันเวลา

จะเห็นได้ว่า accordingly ทำหน้าที่เชื่อมทั้ง 2 ประโยคที่เป็นเหตุผลเกี่ยวโยงกัน

 

ตัวอย่าง คำวิเศษณ์เกี่ยวกับการเชื่อมประโยค เช่น

  • However             –  อย่างไรก็ตาม
  • Consequently   –  ดังนั้น
  • Moreover           – ยิ่งไปกว่านั้น ,นอกเหนือจากนี้
  • Conversely         – โดยตรงกันข้าม

 

และทั้งหมดนี้ก็คือรายละเอียดหลักการใช้ Adverbs ในภาษาอังกฤษ แม้จะมีรายละเอียดที่ซับซ้อนบ้าง แต่เชื่อว่าหากตั้งใจ ท้ายที่สุดการเรียนรู้ของพวกเราทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ