คำ Adjectives ภาษาอังกฤษ มีหลักการใช้อย่างไร

By | May 25, 2013

adjective หรือที่เรียกในภาษาไทยว่าคำคุณศัพท์ เป็นคำที่ใช้สำหรับขยายคำนามหรือสรรพนาม เพื่อให้เราทราบรายละเอียดที่มากขึ้น

ตัวอย่างเช่น

He was wearing a blue shirt.  คำว่า blue(สีน้ำเงิน) ทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ขยายคำว่า shirt(เสื้อ) ซึ่งเป็นคำนามให้มีความหมายชัดเจนมากขึ้น

There are seven rooms in the house.  จากประโยคที่แปลว่า มีเจ็ดห้องในบ้านหลังนี้ คำว่า seven (เจ็ด) มีหน้าที่ขยายคำนาม ห้อง (room) ให้ทราบรายละเอียดชัดขึ้น

Adjectives ภาษาอังกฤษ

ประเภทของ Adjectives ในภาษาอังกฤษ

คำ adjective แบ่งได้เป็นหลายประเภท ทั้งนี้ขึ้นอยู่ว่ามีลักษณะการขยายคำนามในรูปแบบใด

 

1. Adjectives of Quality เป็นคำคุณศัพท์ที่ทำหน้าที่ขยายความเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องคุณภาพ ตัวอย่างเช่น คำว่า Honest(ซื่อสัตย์), Large(ขนาดใหญ่), Beautiful (สวย), Ugly(นาเกลียด) เป็นต้น

Bangkok is a large city with many historical monuments. กรุงเทพเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่เต็มด้วยอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์จำนวนมาก คำว่าขนาดใหญ่ทำหน้าที่ขยายคำว่าเมือง

Yaya is a beautiful woman. ญาญ่าเป็นผู้หญิงสวย คำว่าสวย ขยายคำว่า ผู้หญิง

 

2. Adjectives of Quantity เป็นคำคุณศัพท์สำหรับบอกปริมาณของคำนามหรือสรรพนาม โดยที่ไม่ได้ระบุจำนวนที่ชัดเจน เช่น

All (ทั้งหมด), Half(ครึ่งหนึ่ง), Many(มาก), Few(เล็กน้อย), Little(น้อย), No(ไม่มี), Enough(เำีพียงพอ)

Many people came to Thailand.  คำว่า มากมาย ขยายคำว่า ผู้คน

 

3. Adjectives of Number เป็นคำคุณศัพท์ที่ใช้แสดงจำนวน แบ่งได้เป็น 3 แบบ คือ

– Definite Numeral Adjective คำคุณศัพท์ซึ่งเป็นตัวเลขชัดเจน เช่น One, Two, Twenty, Thirty-Three เป็นต้น หรือลำดับเลขเช่น First, Second, Third, Seventh เป้นต้น

– Indefinite Numeral Adjective คำคุณศัพท์ที่บอกจำนวนไม่ชัดเจน เช่น Some, Many, Few, Any, Several, All  เป็นต้น

– Distributive Numeral Adjective คำคุณศัพท์ที่ใช้อ้างถึงการแบ่งหรือรวมกลุ่มของคำนาม เช่น Every,Either, Neither, Each, Another, Other etc.

 

4. Demonstrative Adjectives คือคำคุณศัพท์สำหรับชี้ให้เห็นหรือเจาะจงให้ชัด เช่น This, That, These และ Those.

ตัวอย่างเช่น These flowers are lovely. คำว่า เหล่านี้ ช่วยขยายชี้เฉพาะคำนาม ดอกไม้ เพื่อบอกให้ผู้ฟังทราบว่า ผู้พูดกำลังหมายถึงเฉพาะดอกไม้เหล่านี้เท่านั้น ไม่รวมดอกไม้อื่น ๆ

 

 5. Interrogative Adjectives คือ คำคุณศัพท์ที่ใช้สำหรับตั้งคำถาม ได้แก่ Where, What, Which and Whose.

ตัวอย่างเช่น What book are they reading?

 

หลักการใช้  คำ Adjectives ภาษาอังกฤษ

ในบางกรณีซึ่งเราต้องใช้คำคุณศัพท์มากกว่า 1 คำ ในการขยายคำนาม จะมีการใช้งานอยู่ 2 รูปแบบ แบบแรกจะใช้เครื่องหมายจุลภาค(,)มากั้นคำคุณศัพท์แต่ละคำ แบบที่สองไม่ต้องใช้เครื่องหมายจุลภาคมาช่วย ซึ่งการที่เราจะทราบได้ว่าคำคุณศัพท์ชนิดใดต้องใช้หรือไม่ต้องใช้เครื่องหมายจุลภาค เราต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Coordinate Adjectives และ Non-coordinate Adjectives เสียก่อน

– Coordinate Adjectives 

หมายถึง กลุ่มศัพท์นามที่แม้จะสลับตำแหน่งกันความหมายก็ยังคงเดิม และถ้าเราเติมคำว่า and(และ) กั้นระหว่างคำคุณศัพท์นามเหล่านี้ ความหมายที่ได้ก็ยังคงเดิมเสมอ เช่น

He was a kind, generous, loving human being. เขาเป็นคนใจดี ,มีน้ำใจ ,มีความรัก ต่อเพื่อนมนุษย์

He was a generous, loving, kind human being. เขาเป็นคนมีน้ำใจ มีความรัก ,ใจดี ต่อเพื่อนมนุษย์

He was a loving, kind and generous human being. เขาเป็นคนมีความรัก ,ใจดี ,มีน้ำใจ ต่อเพื่อนมนุษย์

จะเห็นได้ว่าทั้งสามประโยคข้างต้น แม้เราจะสลับตำแหน่งของคำคุณศัพท์ก็ยังถูกต้องตามหลักแกรมม่าในภาษาอังกฤษอยู่ กรณีเช่นนี้เราจะใช้เครื่องหมายจุลภาคในการแบ่งคำ

– Non-coordinate Adjectives

 หมายถึง กลุ่มคำคุณศัพท์ที่ขยายคำนามในประโยค ซึ่งเราไม่สามารถสลับตำแหน่งกันได้ เพราะจะทำให้ความหมายเปลี่ยน และหากเราใส่คำว่า and(และ) กั้นระหว่างคำคุณศัพท์เหล่านั้น ความหมายจะผิดเพี้ยนไป ตัวอย่างเช่น

She has two energetic playful dogs.  เธอมีหมาซุกซนแข็งแรง 2 ตัว

She has playful two energetic dogs.  เธอมีหมาแข็งแรงสองตัวซุกซน

She has energetic and playful and two dogs. เธอมีหมาสองตัวและซุกซนและแข็งแรง

จะเห็นได้ว่าเมื่อเราสลับตำแหน่งคำคุณศัพท์ ความหมายที่ได้จะผิดเพี้ยนไป ไม่ถูกต้องตามหลักแกรมม่า กรณีเราเราจะไม่ใช้เครื่องหมายจุลภาคในการแบ่งคำคุณศัพท์

 

ในการเรียงลำดับกรณีที่มีคำคุณศัพท์หลายคำซึ่งให้ขยายคำนาม เราเรียงลำดับคำคุณศัพท์ที่ขึ้นก่อนดังนี้

1. Determiners เราจะใช้คำเหล่านี้เริ่มต้นก่อนได้แก่ articles (the, a, an), คำชี้เฉพาะ (this, that, these, those), คำแสดงความเป็นเจ้าของ (my, mine, your, yours, -‘s), คำบอกปริมาณ (all, many etc.),  คำบอกจำนวน (one, twenty, thirty-seven etc.) และ คำที่ใช้แบ่งกลุ่ม (each, every, neither, either)

 

2. Observations/Quantity and Opinion คำคุณศัพท์ที่บอกปริมาณ แสดงความเห็น หรือทัศนะ เช่น Few, Most, One, Three/ Beautiful, Ugly, Difficult etc.

ตัวอย่างประโยค The beautiful house.  — house เป็นคำนาม ,The เป็นคุณศัพท์แบบ Determiners และ beautiful เป็นคำคุณศัพท์แสดงความเห็น

 

3. Size คำคุณศัพท์ที่ใช้บอกขนาดของคำที่ขยาย เช่น Huge, Little, Bulky, Thin, Vast, Tiny, Lean เป้นต้น

ตัวอย่างประโยค The beautiful little house.

 

4. Age คำคุณศัพท์บอกอายุ เช่น Young, Old, Teenage, Mature, Recent, Bygone etc.

ตัวอย่างประโยค The beautiful little old house.

 

5. Shape รูปทรงที่ปรากฏ เช่น Circular, Crooked, Triangular, Oval, Wavy, Straights

ตัวอย่างประโยค The beautiful little old square house.

 

6. Colour คำคุณศัพท์ที่ใช้บอกเกี่ยวกับสี เช่น Pastel, Red, Blue, Metallic, Colourless, Translucent เป็นต้น

The beautiful little old square blue house.

 

7. Origin คำคุณศัพท์บอกถิ่นที่มาแหล่งกำเนิด เช่น Southern, Northern, Lunar, Mexican, French เป็นต้น

The beautiful little old square blue Mexican house.

 

8. Material คำคุณศัพท์บอกวัสดุหรือพื้นผิว เช่น Wooden, Plastic, Steely, Metallic, Cottony เป็นต้น

The beautiful Mexican limestone house.

 

9. Qualifier คำคุณศัพท์บอก คำนามรองทำหน้าที่คุณศัพท์ เป็นคำหรือกลุ่มคำที่เพิ่มเข้ามาแล้วจะเปลี่ยนความหมายของคำนาม เช่น

The beautiful Mexican limestone doll house. คำว่า doll mี่แปลว่าตุ๊กตา เมื่อเพิ่มเข้มาทำให้คำว่า บ้าน เปลี่ยนความหมายไปเป็น บ้านตุ๊กตา