ในภาษาอังกฤษจะพบได้ว่า การตั้งประโยคคำถามจำนวนมาก มีคำศัพท์ Do และ Does เป็นส่วนประกอบอยู่ ดังนั้นในวันนี้เรามาดูกันว่า ทั้งสองคำนี้มีหลักการใช้ที่ถูกต้องอย่างไร
ตัวอย่างการเปลี่ยนประโยคบอกเล่าเป็นประโยคคำถามด้วย Do และ Does
ประโยคบอกเล่า : You speak English. คุณพูดภาษาอังกฤษ
ประโยคคำถาม : Do you speak English? คุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหม ?
ประโยคบอกเล่า : He speaks Thai. เขาพูดภาษาอังกฤษ
ประโยคคำถาม : Does he speak Thai? เขาพูดภาษาไทยได้ไหม ?
จะเห็นได้ว่าเพียงแค่เราเติม Do นำหน้าประโยคบอกเล่า ประโยคนั้นก็จะถูกเปลี่ยนเป็นประโยคคำถามทันที
ประโยคคำถามที่ใช้ Do หรือ Does นำหน้า จัดอยู่ใน Present simple tense ซึ่งการจะเติมทั้งสองคำนำหน้าประโยคคำถามได้ ประโยคนั้นจะต้อง
1. ไม่ใช่ประโยคที่มี Verb to be (is , am ,are) เพราะถ้าเป็นประโยคที่มี V. tobe เราจะเปลี่ยนประโยคบอกเล่าเป็นคำถาม โดยนำ Verb to be มาวางข้างหน้าประโยค โดยไม่ต้องพึ่ง Do หรือ Does เช่น
– He is a boy กลายเป็น Is he a boy?
2. จะต้องไม่ใช่ประโยคที่มี Modal Verbs (can, must, might, should etc.)
เมื่อไรใช้ Do เมื่อไรใช้ Does
หากประธาน คือ I / you / we / they จะใช้ Do
หากประธานคือ he / she / it จะใช้ Does
รูปแบบคำถามสั้นที่ใช้ Do หรือ Does และการตอบคำถาม
ตัวอย่างคำถาม | คำตอบยินยัน | คำตอบปฏิเสธ |
Do you speak English? | Yes, I do. | No, I don’t. |
Do I need a dictionary? | Yes, you do. | No, you don’t. |
Does he speak English? | Yes, he does. | No, he doesn’t. |
Does it have four legs? | Yes, it does. | No, it doesn’t. |
รูปแบบคำถามที่ใช้ Do หรือ Does ร่วมกับ Question Words
กรณีที่เป็นคำถามแบบเจาะจงรายละเอียดมากกว่าที่ต้องการคำตอบว่าใช่หรือไม่ จะมี question words เช่น who, when, where, why, which หรือ how เข้ามาช่วยในการตั้งคำถาม โดยให้วางประโยคเหล่านี้ไว้หน้า Do หรือ Does อีกทีหนึ่ง เช่น
– Where do you live? คุณอาศัยอยู่ที่ไหน ?
– How do you spell your name? คุณสะกดชื่อของคุณอย่างไร ?
– When does they study ? พวกเขามีเรียนเมื่อไร ?
– What does he have for dinner ? เขาทานอะไรสำหรับอาหารค่ำ ?